ขั้นตอนแรกเป็นการเชิญชวนให้สมาชิกของสมาคมฯ (ได้แก่ผู้ที่ประกอบวิชาชีพทางด้านสถาปัตยกรรม) มาเป็นอาสาสมัคร ในการสำรวจ ทำแบบ บูรณะโบราณสถานแห่งนี้ นอกจากจะเป็นการสละแรงงานและเวลาเพื่อการกุศลแล้ว ก็จะได้มาเรียนรู้การทำงานด้านการอนุรักษ์สถาปัตยกรรม ให้เข้าใจว่านี่ก็คือภาระกิจหนึ่งของสถาปนิกเช่นเดียวกัน การอนุรักษ์ที่ดีต้องการการออกแบบเขียนแบบที่ดีด้วยไม่ต่างจากการออกแบบอาคารใหม่ และเรายังต้องเรียนรู้การทำงานกับคนอื่นด้วย ไม่ว่าจะเป็นวิศวกร นักวิทยาศาสตร์ หรือนักโบราณคดี แสดงให้เห็นว่างานอนุรักษ์นั้นเป็นเรื่องของสหวิชาการที่ต้องมาทำงานร่วมกัน
ตอนนี้การเก็บข้อมูลทางสถาปัตยกรรมและศิลปกรรมเพื่อจัดทำแบบบูรณะโดยอาสาสมัครของเราก็ได้เสร็จสิ้นลงแล้ว รวมทั้งการนำเสนอแบบบูรณะเพื่อขออนุญาตดำเนินการจากกรมศิลปากร เนื่องจากเป็นโบราณสถานของชาติ และการเก็บข้อมูลในวิชาชีพอื่นๆก็ได้ดำเนินการไปแล้วเช่นเดียวกัน ขั้นตอนต่อไปก็คือการนำเสนอผลงานการสำรวจทำแบบบูรณะ และประชาสัมพันธ์เพื่อเชิญชวนให้สาธารณชนจากทุกวิชาชีพเข้ามามีส่วนร่วมในโครงการนี้ด้วยการทำบุญ บริจาคเงินเข้ามาสมทบในการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ร่วมอนุรักษ์และสืบสานงานสถาปัตยกรรมไทย
ในโอกาสนี้เลยขออาราธนาพระพุทธเทววิลาส หรือ หลวงพ่อขาว พระประธานในพระอุโบสถวัดเทพธิดาราม พร้อมด้วยคำบูชาตามเอกสารของทางวัดมาฝากเพื่อเป็นสิริมงคล



หลังจากที่ผมได้เขียนบทความเกี่ยวกับโครงการนี้ในคอลัมน์ "ทัศนาสถาปัตย์" หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ก็ได้มีผู้ใจบุญที่มีจิตศรัทธาโอนเงินเข้ามากันมาก ขณะนี้ก็ได้หลายหมื่นแล้ว เลยขอถือโอกาสนี้แสดงมุทิตาจิต อนุโมทนาที่เราได้มีโอกาสได้ทำบุญร่วมกันในครั้งนี้ด้วย และหวังว่าเงินหลักล้านตามที่จำเป็นจะต้องใช้ในการบูรณะหอพระไตรปิฎก คงจะเห็นกันในงานสถาปนิก 52 นี้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น