
เริ่มต้นที่ ICOMOS
ICOMOS เป็นชื่อย่อมาจากคำว่า International Council on Monuments and Sites หรือที่เป็นชื่อในภาษาไทยว่า สภาการโบราณสถานระหว่างประเทศ คือ องค์กรวิชาชีพทางมรดกทางวัฒนธรรมในระดับสากล ที่มีเป้าหมายการทำงาน เพื่อการอนุรักษ์และปกป้องคุ้มครองโบราณสถานในลักษณะขององค์กรอิสระ NGO
อิโคโมสก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ.2508 ณ กรุงวอร์ซอว์ ประเทศโปแลนด์ สืบเนื่องมาจากการประกาศกฎบัตรเพื่อการอนุรักษ์และบูรณะโบราณสถาน “เวนิชชาเตอร์” เพื่อเผยแพร่หลักการและความรู้ด้านเทคนิคการอนุรักษ์ปัจจุบันสำนักงานของฝ่ายเลขานุการตั้งอยู่ ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาอย่างเป็นทางการของ UNESCO และคณะกรรมการมรดกโลก ในการประเมินคุณค่าและศักยภาพของโบราณสถานที่ได้รับการเสนอชื่อเป็นมรดกโลกทุกแหล่ง ก่อนจะนำเสนอต่อ UNESCO เพื่อประกาศขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม
นอกจากนี้ยังมีบทบาทหน้าที่ที่สำคัญได้แก่
การให้การช่วยเหลือในการแก้ปัญหา หรือสนับสนุนโครงการในการอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรม ขององค์กรต่าง ๆ ทั้งในระดับชาติ และระดับระหว่างประเทศ
ให้คำแนะนำ และเป็นผู้กำหนดข้อตกลงระดับระหว่างประเทศ กฎบัตร และแนวทางปฏิบัติต่าง ๆ เพื่อการปฏิบัติทางด้านการอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมในแนวทางที่ดีที่สุด
เป็นเวทีในระดับระหว่างประเทศในการเจรจาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นทางด้านการอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรม ผ่านทางเว็บไซท์ จดหมายข่าว วารสารทางวิชาการ และการจัดการประชุม สัมมนาต่าง ๆ
และเป็นเครือข่ายของบุคลากรผู้ปฏิบัติงานเกี่ยวข้องกับมรดกทางวัฒนธรรม ด้วยการรวมกลุ่มของคณะกรรมการระดับชาติ (National Committee - NC) ของประเทศสมาชิกชาติต่าง ๆ มากกว่า 100 ประเทศ ที่จะได้มีการแลกเปลี่ยนแบ่งปันผู้เชี่ยวชาญ และประสบการณ์ซึ่งกันและกันโดยตรง หรือจากการรวมกลุ่มเฉพาะทางในรูปของคณะกรรมการวิชาการระหว่างประเทศ (International Scientific Committee - ISC)
อิโคโมสไทยคือคณะกรรมการระดับชาติ
อิโคโมสไทย (ICOMOS Thailand) จึงได้แก่ตัวแทนของประเทศไทย ในฐานะคณะกรรมการระดับชาติ (National Committee) คณะกรรมการหนึ่งของ ICOMOS จากการที่กรมศิลปากรได้สมัครเข้าเป็นสมาชิกประเภทสถาบันของอิโคโมสและจัดตั้งอิโคโมสไทยขึ้น เมื่อวันที่ 2 เมษายน พ.ศ.2528 ตามมติคณะรัฐมนตรี มีนายชวน หลีกภัยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการในขณะนั้น เป็นประธานท่านแรก และมีนายทวีศักดิ์ เสนาณรงค์ อธิบดีกรมศิลปากร เป็นเลขานุการ โดยมีชื่อเรียกว่า “คณะกรรมการโบราณสถานแห่งชาติ” ประกอบด้วยกรรมการจำนวน 25 ท่าน พร้อมด้วยภารกิจแรก ได้แก่ การประกาศระเบียบกรมศิลปากรว่าด้วยการอนุรักษ์โบราณสถาน พ.ศ. 2528 หรือที่เรียกว่า Bangkok Charter ตามแนวทางของกฎบัตรเวนิช โดยผู้ที่มีบทบาทสำคัญในการจัดตั้งคณะกรรมการฯและการร่างระเบียบกรมศิลปากรฯขึ้นได้แก่ ดร.สุวิชญ์ รัศมิภูติ ซึ่งต่อมาได้เป็นอธิบดีกรมศิลปากร และรองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ
ในปี พ.ศ.2532 นายนิคม มูสิกะคามะ ผู้อำนวยการกองโบราณคดี ในขณะนั้น ได้เสนอขอความเห็นชอบให้ปรับคณะกรรมการใหม่ เพื่อความคล่องตัวในการดำเนินงาน และการประสานงานกับ ICOMOS โดยลดจำนวนกรรมการลงเหลือ 12 ท่าน และเปลี่ยนชื่อเป็น “คณะกรรมการโบราณสถานแห่งชาติ สำหรับสภาโบราณสถาน และโบราณคดีระหว่างประเทศ (ICOMOS)” มีปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธาน และตัวท่านเป็นเลขานุการ ในปี พ.ศ. 2542 ได้มีการปรับปรุงคณะกรรมการเพื่อความคล่องตัวในการดำเนินงานครั้งที่ 2 ใช้ชื่อว่า “คณะกรรมการโบราณสถานแห่งชาติว่าด้วยสภาการโบราณสถานระหว่างประเทศ (ICOMOS)” มี ดร.สุวิชญ์ รัศมิภูติ เป็นประธาน และผู้อำนวยการสำนักโบราณคดีและพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเป็นเลขานุการ
ต่อมาในปี พ.ศ. 2546 มีการปรับปรุงคณะกรรมการฯอีกครั้งโดยได้เพิ่มเติมคณะกรรมการให้ครอบคลุมสายวิชาชีพต่างๆที่เกี่ยวข้องให้มากขึ้น ประกอบด้วย ที่ปรึกษา คณะกรรมการ เหรัญญิก และผู้ประสานงานฝ่ายเลขานุการรวม 22 คน โดยมี ดร.สุวิชญ์ รัศมิภูติ และปลัดกระทรวงวัฒนธรรม เป็นที่ปรึกษา มีนายอารักษ์ สังหิตกุล อธิบดีกรมศิลปากรในขณะนั้น เป็นประธาน สำนักโบราณคดีเป็นฝ่ายเลขานุการ
โดยคณะกรรมการชุดนี้นั่นเองที่ถือเป็นจุดเริ่มต้นของนโยบายการเปิดรับสมัครสมาชิกเพิ่มเติม เรียกชื่อองค์กรว่า “อิโคโมสไทย” เพื่อการสร้างเครือข่ายของการอนุรักษ์มรดกวัฒนธรรมที่ไม่จำกัดอยู่เพียงในหน่วยงานราชการ เพื่อประโยชน์ในการอนุรักษ์ที่ยั่งยืนอย่างแท้จริง หลังจากที่อิโคโมสไทยได้ทำการประชาสัมพันธ์ เปิดรับสมัครสมาชิกขึ้นพร้อมด้วยการเปิดตัวใน การประชุมใหญ่สามัญครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ.2547 ที่วังลดาวัลย์ สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ และได้ประกอบกิจกรรมต่างๆมาอย่างต่อเนื่อง เน้นให้ทุกภาคส่วนที่สนใจเข้ามามีส่วนร่วม เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้อิโคโมสไทยได้เติบโตขึ้น จากสมาชิกเพียงไม่กี่คนกลายมาเป็นประมาณ 400 คนในปัจจุบัน ในหลากหลายสาขาวิชาชีพและจากทุกรุ่นทุกวัย
ในการประชุมใหญ่สามัญครั้งที่ 2 ในปี พ.ศ.2550 ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ยังได้มีการเลือกตั้งคณะกรรมการอิโคโมสไทยขึ้นเป็นครั้งแรก เป็นคณะกรรมการในวาระปี 2551 – 2553
สู่สมาคมอิโคโมสไทย
จากการหารือในที่ประชุมคณะกรรมการอิโคโมสไทยชุดแรกที่มาจากการเลือกตั้งนี้เองที่นำมาซึ่งแนวความคิดของการจดทะเบียนนิติบุคคลในนามของ “สมาคมอิโคโมสไทย” เพื่อทำหน้าที่บริหารจัดการองค์กรซึ่งเป็นองค์กรอิสระเพื่อสาธารณประโยชน์ เป็นผู้ประสานงานในการประกอบกิจกรรมทางวิชาการ และนิติกรรมต่างๆ ให้มีความคล่องตัวมากยิ่งขึ้น โดยที่ประชุมมีมติให้เรียนเชิญ นายเดโช สวนานนท์ ที่ปรึกษาอิโคโมสไทย อดีตอธิบดีกรมศิลปากร ผู้แทนราษฎรกรุงเทพมหานคร 2 สมัย และสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ 2540 และ 2550 มาดำรงตำแหน่งนายกสมาคมฯท่านแรก พร้อมด้วยคณะกรรมการสมาคมชุดก่อตั้งรวม 9 ท่าน ซึ่งในลำดับต่อไปตำแหน่งนายกสมาคมก็จะมาจากการเลือกตั้งด้วยเช่นกัน โดยมีคณะกรรมการอิโคโมสไทยทำหน้าที่เป็นคณะที่ปรึกษาทางวิชาการต่อไป และสมาชิกอิโคโมสไทยที่มีอยู่เดิมให้ถือว่าเป็นสมาชิกสมาคมอิโคโมสไทยทั้งหมด

จากการหารือในที่ประชุมคณะกรรมการอิโคโมสไทยชุดแรกที่มาจากการเลือกตั้งนี้เองที่นำมาซึ่งแนวความคิดของการจดทะเบียนนิติบุคคลในนามของ “สมาคมอิโคโมสไทย” เพื่อทำหน้าที่บริหารจัดการองค์กรซึ่งเป็นองค์กรอิสระเพื่อสาธารณประโยชน์ เป็นผู้ประสานงานในการประกอบกิจกรรมทางวิชาการ และนิติกรรมต่างๆ ให้มีความคล่องตัวมากยิ่งขึ้น โดยที่ประชุมมีมติให้เรียนเชิญ นายเดโช สวนานนท์ ที่ปรึกษาอิโคโมสไทย อดีตอธิบดีกรมศิลปากร ผู้แทนราษฎรกรุงเทพมหานคร 2 สมัย และสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ 2540 และ 2550 มาดำรงตำแหน่งนายกสมาคมฯท่านแรก พร้อมด้วยคณะกรรมการสมาคมชุดก่อตั้งรวม 9 ท่าน ซึ่งในลำดับต่อไปตำแหน่งนายกสมาคมก็จะมาจากการเลือกตั้งด้วยเช่นกัน โดยมีคณะกรรมการอิโคโมสไทยทำหน้าที่เป็นคณะที่ปรึกษาทางวิชาการต่อไป และสมาชิกอิโคโมสไทยที่มีอยู่เดิมให้ถือว่าเป็นสมาชิกสมาคมอิโคโมสไทยทั้งหมด
นายเดโช สวนานนท์ นายกสมาคมอิโคโมสไทยคนแรก
นายบวรเวท รุ่งรุจี และ ผศ.ดร.ยงธนิศร์ พิมลเสถียร อุปนายก
เมื่อได้รับหลักฐานการจดทะเบียนสมาคม
วสุ โปษยะนันทน์
เลขาธิการ สมาคมอิโคโมสไทย
เลขาธิการ สมาคมอิโคโมสไทย
1 ความคิดเห็น:
ได้อ่านแล้วเป็นประโยชน์มากค่ะ พอดีกำลังทำรายกงานเรื่องอิคอมโมสค่ะ มีข้อสงสัยว่า Bangkok Chater มีกลไกการใช้งานอย่างไรหรือคะ? ต้องมีกฎหมายรองรับเพื่อบังคับให้การอนุรักษ์โบราณสถานเป็นไปตาม Chater ด้วยใช่ไหมคะ? กรมศิลปากรทำหน้าที่เป็นผู้ดูแลการใช้งานChaterและกฎหมายที่เกี่ยวข้องใช่ไหมคะ?
ด้วยความนับถือ
นุช
infinitylife1982@gmail.com
แสดงความคิดเห็น